บริษัท ทีพีซี กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เปิดออฟฟิศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2568

DSC00285
DSC00178
DSC00214
DSC00256
DSC00276 (1)
IMG_20250604_230913
DSC00545
DSC00663
r014
015
063
IMG_20250604_231241 (1)
DSC00285 DSC00178 DSC00214 DSC00256 DSC00276 (1) IMG_20250604_230913 DSC00545 DSC00663 r014 015 063 IMG_20250604_231241 (1)
บริษัท ทีพีซี กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เปิดออฟฟิศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2568
การเปิดสำนักงาน ทีพีซี กรุ๊ป (เชาว์ เป่า ฉี) เป็นบริษัทโฮลดิ้งครอบครัวรุ่นที่ 4 มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่สิงคโปร์ โดยมุ่งมั่นส่งเสริมเศรษฐกิจแห่งความอยู่ดีมีสุข (well-being and happiness economy) ผ่านการสนับสนุนการเชื่อมโยงระดับโลกและสร้างความยืดหยุ่นทางธุรกิจด้วยกิจกรรมด้านห่วงโซ่อุปทานและโลจิสติกส์ตลอดจนดำเนินโครงการต่างๆ ที่มุ่งเน้นการพัฒนาความเป็นอยู่ที่ดีทั้งในระดับบุคคลและชุมชน
TPC มีโครงสร้างระบบนิเวศธุรกิจที่แข็งแกร่ง ประกอบด้วย IMC Industrial ซึ่งเป็นที่รู้จักในประเทศไทยในนาม กลุ่มบริษัทยูนิไทย OCTAVE และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรหลายแห่ง เช่น OCTAVE Institute มูลนิธิ NO.17 และ มูลนิธิ Restore Nature ทั้งหมดทำงานร่วมกันเพื่อสร้างคุณค่าและผลกระทบที่แท้จริงต่อสังคม
TPC มีสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคในประเทศจีน อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และไทย โดยขยายเครือข่ายการดำเนินงานทั่วทวีปเอเชีย เพื่อตอกย้ำพันธสัญญาในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่สนับสนุนความเจริญงอกงามของชีวิต (Flourishing of Life) อย่างยั่งยืน
ในงานนี้ได้รับเกียรติจากผู้บริหารระดับสูงจากคุณโล เนียบ จวน Group Chief Corporate Officer คุณเชอรีน โก๊ะ Chief People & Organization คุณไท สุค กี Chairman No.17 Foundation and Brand & Communications Lead คุณจรรย์จิรา พนิตพล ผู้อำนวยการสูงสุด สำนักงานส่วนกลางประเทศไทย คุณพลชนพ อุปถัมป์ ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลและองค์กร ร่วมป็นเกียรติและทำกิจกรรมร่วมกับพนักงานและในช่วงค่ำผู้บริหารระดับสูงได้จัดงานเพื่อเปิดตัวบริษัท ทีพีซี กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด อย่างเป็นทางการกับคู่ค้าทางธุรกิจที่โรงแรมเดอะ พาร์คไฮแอท บรรยากาศภายในงานเป็นไปด้วยความยินดี
การเดินทางของเรายังคงดำเนินต่อไปเราหวังว่าจะได้ต้อนรับคุณร่วมเดินทางไปด้วยกันในการเปลี่ยนวิสัยทัศน์ให้กลายเป็นการสร้างความหมายที่แท้จริงให้กับ “ธุรกิจเพื่อผลกระทบเชิงบวก”